การตลาดบนความคิดสร้างสรรค์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย
ม.พิษณุโลก
ยุคปัจจุบันความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและมีความสำคัญมาก
ไม่เว้นแม้กระทั่ง การทำการตลาด
สังคมไทยจึงมีความต้องการนักสร้างสรรค์สิ่งแปลกๆใหม่ๆ อีกจำนวนมาก
เพื่อที่จะผลิต
สินค้าและบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ดังนั้น การประกอบอาชีพในอนาคต ใครที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์งานจะหางานทำได้ง่ายและได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าคนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์
การสร้างไอเดียหรือความคิดใหม่ๆ ในโลกของการแข่งขันทางการตลาดในยุคปัจจุบัน
ไอเดียหรือความคิดใหม่ๆ มีความสำคัญมาก เพราะโลกยุคปัจจุบัน
เป็นโลกของการนำเสนอไอเดียใหม่ๆ ผู้ที่สามารถนำเสนอไอเดียให้เป็นที่รู้จักและไอเดียนั้นเป็นที่ยอมรับ
เขาผู้นั้นมักจะเป็นผู้ที่ชนะ
ธุรกิจเล็กชนะธุรกิจใหญ่ ด้วยความคิดสร้างสรรค์
โดยต้องทำตัวเป็นผู้นำนวัตกรรมหรือเป็นผู้นำความคิดใหม่ๆ
เช่น บริษัทของสตีฟ จ็อบส์ บริษัทของบิล เกตส์ บริษัทของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
บริษัทของแจ๊ค หม่า สมัยอดีต เป็นบริษัทเล็กๆ ธุรกิจเล็กๆ
แต่ด้วยการเป็นผู้นำนวัตกรรมหรือเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ไอเดียใหม่ๆ
จึงทำให้บริษัทเหล่านี้ เติบโตเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในระดับโลกเลยทีเดียว
Think Different หรือ คิดต่าง ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีการพูดถึงกันมากและมีความสำคัญมากๆ
สำหรับคนที่ทำงานด้านการตลาด สตีเวน จอบส์
(Steve Jobs) ผู้ก่อตั้งแอปเปิลคอมพิวเตอร์หรือ
บริษัทแอปเปิล (Apple:
Company Co-founder Steve Jobs Has Died) เขาให้ความสำคัญมากๆ เกี่ยวกับการคิดต่าง หรือ Think Different บริษัทถึงกับออกโฆษณาตามสื่อต่างๆ
เกี่ยวกับแนวความคิดนี้ และมีคนเคยถามว่า
ทำไมเขาให้ความสำคัญเกี่ยวกับการคิดต่างหรือ Think Different แต่มีการวิจัยตลาดหรือการหาความต้องการของลูกค้าน้อยมาก
เขาตอบว่า
ในบางครั้งลูกค้าก็ไม่รู้ตัวว่าตนเองต้องการอะไร พร้อมทั้งยกตัวอย่างว่า
สมัยของเฮนรี ฟอร์ด คนเรายังไม่มีรถยนต์ใช้ แต่ใช้ม้า ใช้ช้าง ใช้วัว ใช้เกวียน
ในการเดินทาง ถ้าหากเฮนรี ฟอร์ด
ทำการวิจัยทางการตลาดว่า ลูกค้ามีความต้องการอะไร ลูกค้ามักจะตอบกลับว่า เขาต้องการม้าที่วิ่งได้ไวที่สุด
เขาต้องการเกวียนที่มีประสิทธิภาพที่สามารถบรรทุกของได้เป็นจำนวนมากๆ
ผู้ชนะคือผู้ที่กำหนดเกมส์ให้ผู้อื่นเล่น
แต่ผู้พ่ายแพ้มักเล่นตามเกมส์ของผู้อื่น
ทำไมคนที่เป็นนักการตลาดจะต้องมีความคิดต่างหรือThink
Different หรือความคิดสร้างสรรค์
ก็เพราะการคิดต่างและความคิดสร้างสรรค์จะทำเกิดสินค้าใหม่ๆ
กลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ
การแก้ไขปัญหารูปแบบใหม่ๆ
จึงทำให้องค์กรของตนเองหรือหน่วยงานของตนเอง
ก้าวหน้ามากกว่าที่จะทำตามหรือลอกเลียนแบบ สินค้า กลยุทธ์การตลาดของบริษัทคู่แข่ง
แม้แต่การโฆษณาใน Facebook
หรือใน Line ก็เช่นกันก็ต้องมีการใช้ไอเดียในการโฆษณา
ไม่ใช่การนำเสนอขายไปแบบตรงๆ แต่ต้องมีไอเดียในการโฆษณา เช่น
รับจัดทัวร์ไปเที่ยวฮ่องกง ลูกค้าก็มักจะไม่สนใจ แต่ถ้าเราสื่อสารให้เขารู้ว่า
เขาจะได้รับผลประโยชน์อะไรบ้าง ลูกค้าก็มักจะมีความสนใจมากกว่า ตัวอย่าง “ ช่วง
กันยายนนี้ ไปทัวร์ฮ่องกงกับเราสินค้าแบรนด์เนม ลดราคาทั้งเกาะฮ่องกง” เป็นต้น
ไอเดียในการสร้างสินค้าให้ออกมาแปลกๆใหม่ๆก็มีความสำคัญ
สินค้าประเภทสบู่ ถ้าเราเข้าไปซื้อสบู่ตามห้างสรรพสินค้า
เราก็จะเห็นสบู่มีรูปลักษณะทั่วๆไป กลม สี่เหลี่ยม
แต่ในยุคปัจจุบันถ้าเราสร้างสรรค์ไอเดียแปลกๆใหม่ๆ สบู่อาจจะเป็นรูปผลไม้ต่างๆ
เช่น รูปมะม่วง รูปทุเรียน รูปมังคุด รูปแอปเปิ้ล ฯลฯ
เราจะพัฒนาความคิด ไอเดีย ใหม่ๆ จากอะไร นาย Dee
Hock กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า
“ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การป้อนความคิดแปลกๆใหม่ๆ ใส่เข้าไปในหัวสมองของเรา
หากแต่อยู่ที่การขจัดความคิดเก่าๆ ออกไปต่างหาก
หัวสมองของเราก็เหมือนกับห้องที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ ล้าสมัย เพราะฉะนั้น
ก่อนที่เราจะเอาเฟอร์นิเจอร์ใหม่ใส่เข้าไป
เราก็ต้องย้ายเฟอร์นิเจอร์เก่าออกไปจากห้องนี้ให้หมด” กล่าวคือ นาย Dee
Hock ได้แนะนำให้ลืมอดีตไปบ้าง
ไม่ควรนำอดีตมาใส่ในสมอง เพราะหากนำมาใส่มากๆ ก็จะทำให้เราคิดสิ่งใหม่ๆ สิ่งแปลกๆ
สิ่งที่สร้างสรรค์ไม่ออก
1.ถ้าเกิดไอเดีย เราควรจดหรือร่างไอเดียนั้นๆ
ลงในสมุดหรือจะวาดเป็นภาพได้ยิ่งดี
2.เราต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม
ต้องศึกษาความเป็นไปได้ของไอเดียว่าเราสามารถเพิ่มเติมอะไรลงไปได้บ้าง
ควรปรับไอเดียหรือแก้ไขอย่างไรให้มันดีขึ้น
3.เราต้องมีการวางแผนในการทำไอเดียของเราให้ออกมาเป็นรูปธรรม
โดยมีการวางแผนเป็นขั้น เป็นตอน และวิธีการต่างๆที่จะนำไอเดียไปใช้จริงๆได้
4.เราต้องมีการนำเสนอไอเดีย ออกมาคือ
นำไปใช้นั้นเอง เราต้องมีเทคนิคในการสื่อสารเพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเชื่อว่า
ไอเดียของเราดีจริง
5.เราต้องมีการปรับปรุงแก้ไขไอเดีย
เมื่อเรานำเอาไอเดียไปใช้จริง มีการนำเสนอไอเดียแล้ว ถ้าเกิดผลออกมาไม่ดี เราก็ควรนำเอาไอเดียนั้นมา พัฒนา แก้ไข
เพื่อนำเอาไปต่อยอด และสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ต่อไป
สำหรับการคิดไอเดียใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องยาก
กล่าวคือ เราต้องเป็นคนที่สนใจเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
และต้องออกไปเยี่ยมชมงานโชว์งานการแสดงต่างๆในวงการที่เราสนใจ
เราต้องหาหนังสือต่างๆที่เกี่ยวข้องมาอ่าน
เราต้องทำความรู้จักกับคนในวงการเดียวกันเพื่อสอบถามเพื่อหาข้อมูลเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือกันในอนาคต
ดังนั้น การสร้างไอเดียใหม่ๆจึงมีความสำคัญ หลายคนได้นำเอาไอเดียของคนอื่นมาปรับเปลี่ยนเพียงแค่เล็กน้อยแล้วสร้างความแตกต่างก็สามารถสร้างเงินได้อย่างมากมายมหาศาล
ฉะนั้น ในโลกของการแข่งขันในยุคนี้
เป็นโลกทุนนิยมเสรี ใครสามารถมีและสร้างไอเดียใหม่ๆหรือมีความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา
ใครสามารถนำเอาไอเดียไปใช้ได้ก่อนคนอื่นๆ
ใครสามารถสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการตลาดอยู่ตลอดเวลา
ย่อมมีความได้เปรียบในการแข่งขัน เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ขายแต่ของเก่าๆ
ไม่ยอมสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ อย่างแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น