NLP ปลุกพลังนักการตลาดสู่ความสำเร็จ ...
โดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย
ม.พิษณุโลก
NLP หรือ N = Neuro
L = Linguistic
P = Programming
แปล
ให้ตรงตามคำศัพท์ NLP
คือ
การโปรแกรมคำพูดและการสื่อสารเข้าสู่ระบบประสาท
จิตของคนเราแบ่งออกเป็น
2
ประเภทคือ จิตสำนึกกับจิตใต้สำนึก
มีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก กล่าวคือ
จิตสำนึกจะเป็นตัวสั่งการให้จิตใต้สำนึกทำงาน ถ้ายกตัวอย่าง คนขี่ม้าเปรียบเสมือนจิตสำนึกซึ่งเป็นคนคอยสั่งให้ม้า
เดิน วิ่ง หยุด
แต่จิตใต้สำนึกเปรียบเสมือนตัวม้า
แต่ถ้าวันไหนม้าเกิดพยศ นั่นแสดงว่าคนสั่งไม่มีประสิทธิภาพในการออกคำสั่ง หรือ คราญช้างเปรียบเสมือนจิตสำนึกที่คอยสั่งช้างให้ทำตาม
ตัวช้างเปรียบเสมือนจิตใต้สำนึก ซึ่งมีพลังมากมายมหาศาล หรือพูดอีกในหนึ่งก็คือ
จิตใต้สำนึกหรือตัวช้าง มีพลังมากกว่าจิตสำนึกหรือคราญช้างนั้นเอง
ถ้าท่านผู้อ่านเคยเห็นภาพภูเขาน้ำแข็ง
7 % ของก้อนภูเขาน้ำแข็งที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าคือ จิตสำนึกซึ่งสามารถรับรู้ได้ด้วย
ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ส่วนก้อนภูเขาน้ำแข็งอีก 93 %
เป็นเรื่องของ จิตใต้สำนึกเป็นเรื่องของ จิตวิญญาณ สัญชาตญาณ ลางสังหรณ์
ยักษ์ภายในตัวเรา
ส่วนการเรียน
NLP จะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของจิตใต้สำนึก
เราสามารถสื่อภาษาเข้าระบบประสาทได้หลายวิธีแต่ในที่นี้ขอนำเสนอแค่
5
วิธีใหญ่ๆคือ
1.ภาษาพูดโดยใช้คำพูดบวกกับตัวเอง
คำพูดที่เป็นบวกจึงมีพลัง
มากกว่าคำพูดที่เป็นลบ
ซึ่งการใช้คำพูดบวกจะทำให้ผู้พูดและผู้ฟัง เกิดพลัง เกิดความสบายใจ
เกิดความกระตือรือร้น เกิดความกระฉับกระเฉง เกิดความสดชื่น เป็นต้น
2.ภาษาเสียง
เคยมีนักวิชาการเคยกล่าวไว้ว่า “ ภาษาพูด บอก...ความหมาย
ถ้อยคำแต่ภาษาเสียงหรือน้ำเสียง.......ก่อให้เกิดความหวั่นไหวขึ้นภายในหัวใจ” กล่าวคือ น้ำเสียงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ต่อความคิด ความรู้สึก ความเคลื่อนไหว ของคนเรา
3.ภาษากาย
การเคลื่อนไหว(รวมทั้งภาษาท่าทาง) มีความสำคัญ anthony robbins โค้ช สอน NLP ระดับโลก ได้กล่าวว่า Emotion is created by motion( อารมณ์ถูกสร้างด้วยการเคลื่อนไหว
)
พวกเราสังเกตคนอกหักจะเดินหรือเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ จึงทำให้เกิดอารมณ์เศร้า
เหงา ไม่มีความสุข แต่ตรงกันข้ามกับคนที่เดินกระฉับกระเฉง ว่องไว
จะทำให้เกิดอารมณ์สดใส ตื่นเต้น สดชื่นมากกว่า
4.ภาษาจินตนาการ
จงจินตนาการถึง ความสำเร็จ บ้าน รถ ความร่ำรวย ให้ออกมาเป็นภาพ ทุกๆวัน
บางคนอาจทำได้ยากเพราะไม่ค่อยได้ฝึกฝนในการจินตนาการ ในบางคนที่จินตนาการยาก กระผมขอแนะนำให้
หาภาพถ่ายเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องการติดไว้ที่ผนังในห้องส่วนตัวของเรา เช่น
รูปรถหรูที่เราต้องการ ภาพของคนที่ประสบความสำเร็จที่เราต้องการจะเป็นแบบเขา
ภาพบ้านใหม่ ภาพการท่องเที่ยว ที่ต้องการ ฯลฯ
5.ภาษาคิด
จงคิดบวก คิดว่าตนเองทำได้ อย่าไปคิดลบ ถ้าเราคิดบวกมากๆเราจะเกิดการสร้างสรรค์งาน
เกิดความสดชื่นในการทำงาน แต่ถ้าเราคิดลบ เราจะขาดพลัง
ดังนั้น
นักการตลาดท่านใดที่สามารถนำเอาศาสตร์ NLP มาประยุกต์ใช้ก็จะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วและเกิดพลังในการทำงาน
สำหรับวิธีการประยุกต์ใช้อย่างง่ายๆกระผมมีข้อแนะนำดังนี้
1.ใช้พลังของคำพูด
กล่าวคือ พูดบวกกับตัวเองทุกๆวัน พูดกับตัวเองบ่อยๆ เช่น
ฉันทำได้,ฉันเป็นนักการตลาดที่เก่งที่สุด,ฉันเชื่อมั่น,ฉันเยี่ยมที่สุด
พูดตอกย้ำกับตัวเองบ่อยๆให้เข้าไปยังจิตใต้สำนึก
2.ใช้พลังของน้ำเสียง
กล่าวคือ เวลาพูดกับตัวเอง จงหาที่เงียบๆ ในห้องนอนหรือห้องส่วนตัว พูดกับตัวเอง “ฉันทำได้,ฉันเป็นนักการตลาดที่เก่งที่สุด,ฉันเชื่อมั่น,ฉันเยี่ยมที่สุด”
ด้วยพลังเสียงที่ดัง(ออกเสียง) เสียงที่กระตือรือร้น ถ้าเราพูดด้วยน้ำเสียง(ออกเสียง)ที่เบาๆ
ช้าๆ เราก็จะไม่มีพลัง
3.ใช้พลังแห่งการเคลื่อนไหว
กล่าวคือ เคลื่อนไหวให้เร็วกว่าปกติ เราก็จะเกิดความกระตือรือร้น
มีอารมณ์ที่กระฉับกระเฉงในการทำงาน โดยเฉพาะเวลาที่ทำงานในสำนักงานยิ่งต้องเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้น
ยืนให้ตรง หลังไม่ค่อม แต่ถ้าเราเคลื่อนไหวช้าๆ เราก็จะมีอารมณ์ที่เฉยชา
คนที่พบเห็นก็จะไม่เชื่อมั่นเราและเราก็จะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
4.ใช้พลังแห่งการจินตนาการ
กล่าวคือ จินตนาการว่าตนเองประสบความสำเร็จ มีคนเชิญขึ้นไปพูดบนเวที จินตนาการในสิ่งที่นักการตลาดต้องการที่จะเป็นในอนาคตข้างหน้า
5.ใช้พลังแห่งความคิด
กล่าวคือ จงคิดบวก คิดว่าตนเองทำได้ คิดว่าตนเองประสบความสำเร็จ
คิดว่าตนเองเป็นคนเก่ง แล้วเราจะเป็นดังสิ่งที่เราคิด
สรุปก็คือ นักการตลาดต้องนำ 5 สิ่งข้างต้นไปใช้และควรปฏิบัติในด้านบวกหรือปฏิบัติไปในทางที่ดี
เช่น สื่อภาษาเข้าระบบประสาทโดยการพูดบวก ภาษาเสียงที่เป็นบวก ภาษากายที่เป็นบวก ภาษาจินตนาการที่เป็นบวก
ภาษาคิดที่เป็นบวก แล้วนักการตลาดก็จะประสบความสำเร็จโดยใช้หลักการ
NLP อย่างง่ายที่กล่าวไปข้างต้นนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น