วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2562

ความรู้สำหรับนักการตลาด


ฝากไว้สำหรับนักการตลาด
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
       ศาสตร์ทางด้านการตลาดในโลกนี้มีมากมาย ถ้าหากว่านำมาเขียน เกรงว่าชาตินี้ก็คงเขียนได้ไม่หมดและศาสตร์ทางด้านการตลาดไม่เคยอยู่นิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สำหรับบทความฉบับนี้ อยากที่จะสรุปประเด็นสำคัญๆทางด้านการตลาดเพื่อฝากเอาไว้สำหรับนักการตลาดทุกๆท่าน หลายท่านก็อาจจะรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ได้นำมาอ่านใหม่หรือนำมาทบทวนใหม่ก็มีโอกาสจะหลงลืมได้ครับ
          นักการตลาดที่ดี มีความจำเป็นจะต้องมีการลงพื้นที่ เพื่อไปสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนำข้อมูล มาวิเคราะห์ ซึ่งจะอาศัยข้อมูล ตัวเลข สถิติต่างๆ หรืองานวิจัย แบบนักการตลาดในสมัยก่อน เพื่อนำมาวิเคราะห์แต่เพียงอย่างเดียวคงไม่ได้อีกแล้ว นักการตลาดที่ดีต้องลงพื้นที่จริงๆ  เพราะจะทำให้นักการตลาดมองเห็นภาพและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แท้จริง
          นักการตลาดที่ต้องการจะเป็นผู้นำตลาด ไม่ควรลอกเลียนแบบใคร เพราะคนลอกเลียนแบบมักจะเป็นผู้ตามวันยังค่ำ ตรงกันข้ามคนที่คิดต่าง หรือ Think Different มักมีโอกาสเป็นผู้นำตลาดอยู่เสมอ แต่ความยากที่สุดก็คงอยู่ที่ว่า นักการตลาดสมัยใหม่ กล้าหรือเปล่าที่จะคิดต่างและมีความกล้าหรือเปล่าที่จะนำความคิดนั้นไปใช้ เพราะความคิดใหม่ๆ มักต้องเผชิญกับทั้งความล้มเหลวหรือต้องเผชิญกับเสียงตำหนิ เสียงดุด่า การเสียดสี การพูดในเชิงดูถูก แต่หากว่าความคิดต่างหรือThink Different ประสบความสำเร็จ คุณก็มีโอกาสโด่งดังมากกว่าคนที่ทำอะไรตามๆ คนอื่นเขา
          นักการตลาดในยุคนี้หรือยุคแห่งอนาคตไม่สามารถหลีกหนี การตลาด.ภิวัฒน์ได้หรือการตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา ดังนั้นนักการตลาดที่ดี จะต้องมีการปรับตัว ต้องศึกษา ต้องทำความเข้าใจ ต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อที่จะใช้ชีวิตในโลกของการแข่งขันที่ไร้พรมแดนได้อย่างมีความสุข
           นักการตลาดที่ดีที่เก่งต้องใช้ การตลาดลูกผสม เนื่องจาก สูตรสำเร็จทางการตลาดไม่สามารถทำกันอย่างง่ายๆ เหมือนในอดีตอีกแล้ว เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลาไม่หยุดนิ่ง  ปัจจัยต่างๆก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น ความต้องการของลูกค้า , เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก , สื่อมีจำนวนมากขึ้น อีกทั้งมีความทันสมัยกว่าในอดีต การใช้การตลาดที่มีการผสมประสานกัน น่าจะเป็นสูตรการตลาดที่ประสบความสำเร็จมากกว่า การใช้สูตรเพียงสูตรเดียวในการทำงานด้านการตลาดเหมือนในอดีต
นักการตลาดที่ทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ต จะประสบความสำเร็จคงต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ผู้บริหารให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือหรือไม่ , ผู้บริหารเข้าใจสื่ออินเตอร์เน็ตมากน้อยแค่ไหน,ความร่วมมือภายในองค์กรมีมากน้อยแค่ไหน เพราะต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานหรือฝ่ายอื่นๆด้วย (นักการตลาด กับ ฝ่ายเทคโนโลยี และฝ่ายตลาด,ฝ่ายอื่นๆที่ต้องทำงานร่วมกัน)
นักการตลาดที่เข้าสู่โลกแห่งการแข่งขันในยุคปัจจุบัน  โลกยุคนี้อะไรก็ไม่แน่นอน บริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัทมักไม่สามารถเอาชนะการแข่งขันกับบริษัทเล็กๆบางแห่งได้ แต่สิ่งที่บริษัทเล็กๆ สามารถเอาชนะบริษัทใหญ่ๆได้ มีประเด็นที่สำคัญก็คือบริษัทเล็กๆต้องพัฒนาเรื่องของความคิด พัฒนาไอเดีย พัฒนาการคิดต่าง คิดอย่างผู้ท้าชิง หาโอกาสให้ตัวเองและจงรักในสิ่งที่ทำ จงทำในสิ่งที่รัก
นักการตลาดต้องให้ความสำคัญกับการใช้สื่อการตลาด นักการตลาดจะประสบความสำเร็จในการใช้สื่อการตลาดหรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น หากสินค้ามีความเหมือนกันหรือคล้ายคลึงกัน อีกทั้งการใช้สื่อการตลาดก็ไม่มีความแตกต่างกัน ก็คงประสบความสำเร็จได้ยากกว่า คู่แข่งที่มีการสร้างความแตกต่างของสินค้าและบริการ อีกทั้งยังมีความสามารถในการใช้สื่อการตลาดที่มีความแตกต่างโดดเด่น เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆมากกว่า
นักการตลาดที่ใช้กลยุทธ์บุคคล คนดัง เพื่อทำ  Celebrity Marketing  ควรคำนึงถึง แบรนด์ บุคคลหรือคนดังด้วยว่า สอดคล้องหรือมีภาพลักษณ์ไปกับสินค้า บริการของเราด้วยหรือไม่ ซึ่ง แบรนด์บุคคลหรือคนดัง ที่นำมาใช้ควรมีคุณลักษณะที่สำคัญ ดังนี้ มีความน่าเชื่อถือ(Believe)และ มีความไว้วางใจ(Trust) กล่าวคือสามารถสร้างภาพลักษณ์ให้กับตราสินค้า (Credibility)  ของเราได้ , มีภาพลักษณ์ที่มีเสน่ห์และสามารถดึงดูดความสนใจลูกค้าหรือผู้บริโภคให้มาสนใจตราสินค้า (Attractiveness) ของเราได้
นักการตลาดที่ใช้กลยุทธ์ Viral Marketing มีข้อควรระวังที่ควรพิจารณาก็คือบริษัทบางแห่งโดยเฉพาะบริษัทใหม่ๆ ต้องการให้ลูกค้ารู้จักสินค้า รู้จักบริษัทอย่างรวดเร็ว เลยใช้กลยุทธ์ Viral Marketing แต่เป็นการส่งข้อมูลข่าวสารในทางลบหรือทำให้เสียภาพพจน์ ปรากฏว่า การทำ Viral Marketing ได้ผลคนรู้จัก บริษัท สินค้า อย่างรวดเร็ว แต่ในทางกลับกัน การทำ Viral Marketing ลักษณะนี้ กับส่งผลในแง่ภาพพจน์กับบริษัทในระยะยาว ซึ่งกว่าจะทำให้ภาพพจน์ของบริษัทดีขึ้น คงต้องใช้ระยะเวลานานถึงจะทำให้คนดู คนฟัง ลบภาพในทางลบออกจากหัวใจของคนได้
นักการตลาดควรคำนึงถึงเรื่องของบริการควบคู่กับเรื่องของการตลาดเพราะแนวโน้มของธุรกิจการบริการเป็นแนวโน้มที่ดีมากๆในอนาคต อีกทั้งในยุคปัจจุบัน หากองค์กรใด หน่วยงานใด มีการบริการที่ดีและเหนือกว่าคู่แข่งขัน ย่อมสร้างความได้เปรียบ ความเป็นต่ออย่างมากในการทำธุรกิจ
นักการตลาดที่ใช้กลยุทธ์แบรนด์ ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของ  แบรนด์กับการกระจายสินค้า หลายบริษัท เน้นการสร้างแบรนด์ ในการนำสินค้าออกสู่ตลาดใหม่ๆ แต่ ละเลยการกระจายสินค้า ทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไรไปอย่างง่ายดาย ตัวอย่าง สมมุติ เราเดินทางไปจังหวัดหนึ่ง ในหมู่บ้านหนึ่ง เราอยากกิน  Coca-Cola ในหมู่บ้านนั้น แต่ร้านขายของชำบอกว่า ไม่มีขายต้องไปซื้อในตัวอำเภอเมือง ซึ่งต้องเดินทางไปหลายกิโลเมตร แล้วถามว่าเราจะอยากไปไหม แต่ตรงกันข้าม Coca-Cola มีการกระจายสินค้าที่ดีมาก Coca-Cola มีขายทุกแห่ง เกือบทุกพื้นที่ในประเทศไทย จึงทำให้ Coca-Cola มียอดขายที่มากมายมหาศาล ถึงแม้ว่า หลายแห่งจะขายราคาไม่เท่ากัน แต่ลูกค้าจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะซื้อจากสถานที่ไหน ราคาเท่าไร เมื่อไร
ทั้งหมดนี้คือ แง่คิด มุมความคิดที่ฝากไว้สำหรับนักการตลาด เพื่อใช้ในการทบทวน หรือ เตือนความจำ เพื่อนำเอากลยุทธ์ต่างๆ แง่คิดต่างๆไปพัฒนาหรือนำเอาไปใช้ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น