A B C D สำหรับนักการตลาด
โดย...ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
Attraction Marketing เป็นการตลาดทำการตลาด
ที่ดึงความสนใจของผู้บริโภค ของผู้มุ่งหวัง
ให้มาขอซื้อสินค้าหรือมาขอทำธุรกิจเครือข่ายกับเรา
โดยที่เราไม่ต้องไปเสนอขอให้เขามาทำธุรกิจเครือข่ายหรือซื้อสินค้าจากเรา
ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดเดิมๆ ที่ต้องไปเสนอขายสินค้าหรือนำเสนอขายธุรกิจเครือข่าย
ซึ่งทำให้เกิดความน่าเบื่อหน่าย ความน่ารำคาญ จากลูกค้าหรือผู้มุ่งหวัง
จากพฤติกรรมการตามตื้อ ตามง้อของเรา
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่า
เมื่อใช้การตลาดแบบ Attraction Marketing คนจะไม่ปฏิเสธหรือถูกโดนปฏิเสธจากลูกค้าหรือผู้มุ่งหวังเพราะเป็นธรรมดางานขายหรืองานนำเสนอจะต้องมีทั้งการตอบรับและการถูกปฏิเสธ
การตลาดแบบ Attraction Marketing ส่วนใหญ่มักจะทำกันในโลกอินเตอร์เน็ตหรือโลกออนไลน์
เพราะ โลกออนไลน์มีลักษณะเป็น Mass สูง เป็นโลกของ
Social ที่ทันสมัย
แต่คนจำนวนมากมักคิดว่า ถ้าอย่างไร
เราต้องโพสต์หรือส่งข้อความของบริษัทของเรา สินค้าของเรา ตัวเรามากๆ
คนเขาจะได้เข้ามาซื้อหรือเข้ามาติดตาม
การตลาดแบบ Attraction
Marketing จะต้องมีการนำเสนอ
Content และการนำเสนอ Profile
ที่น่าสนใจ
จึงจะสามารถดึงดูดผู้คนรวมทั้งลูกค้าและผู้มุ่งหวังมาให้สนใจเรามากกว่าการโพสต์หรือการส่งข้อความเป็นจำนวนมาก
แต่ไม่มีความแตกต่าง ไม่มีความน่าดึงดูด ให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาสนใจ
กล่าวคือ
เราจะต้องสร้างมูลค่าให้กับตัวเราเองเสียก่อน การสร้าง Brand จึงเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะต้องนำเอามาใช้
เพราะการสร้าง Brand จะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ
สร้างความจดจำ
สร้างความศรัทธาภายในใจของกลุ่มเป้าหมายจนกระทั่งกลุ่มเป้าหมายอยากที่จะซื้อสินค้าหรืออยากจะทำงานร่วมกับเรา
Brand หรือ แบรนด์
มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำการตลาด การขาย การสร้างธุรกิจ เพราะ Brand จะทำให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันด้านธุรกิจในระยะยาว
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคา เรื่องของคุณค่าทางด้านจิตใจ การเชื่อถือการไว้วางใจ
จนกระทั้งลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำ และเกิดความศรัทธาใน Brand
ตรงกันข้าม ถ้าหากธุรกิจใดไม่สร้าง Brand ไม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของ Brand ธุรกิจนั้น
องค์กรนั้น ก็จะเสียเปรียบทางด้านการแข่งขันในระยะยาวได้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกำหนดราคา ลูกค้าไม่มีความเชื่อถือ ไม่ไว้วางใจ
และสามารถเปลี่ยนใจไปบริโภค อุปโภค หรือใช้บริการกับสินค้าบริษัทอื่นๆได้ทุกเวลา
ถ้าหากธุรกิจใด
ต้องการผลกำไรอย่างยั่งยืน ธุรกิจนั้น
มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลงทุนเกี่ยวกับเรื่องของ Brand เช่น
เมื่อเราพูดถึงเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม พวกเรามักคิดถึง Brand ยี่ห้ออะไร
ถ้าให้ผมตอบ พวกเราก็คงตอบว่า โค้ก หรือ เป็ปซี่ แต่ถ้าไปถามคนทั่วโลกว่าคิดถึง
น้ำอัดลมยี่ห้ออะไร คนส่วนใหญ่ทั่วโลกมักจะตอบว่า “ โค้ก”
เพราะผลจากการสำรวจมูลค่าของ Brand ของสินค้าและบริการต่างๆทั่วโลก
ประจำปี 2555 ของบริษัท Interbrand พบว่า โค้ก หรือ Coca-Cola
ยังเป็นแชมป์อันดับหนึ่งของโลก
และพวกเราเชื่อไหมครับว่า ถ้าหากบริษัท โค้ก ขาย Brand
อย่างเดียวโดยไม่รวมทรัพย์สินอื่นๆ
เช่น โรงงาน , ขวดแก้ว , ที่ดินต่างๆ
ฯลฯ บริษัท โค้ก จะขาย Brand อย่างเดียวได้มูลค่าถึง
71 พันล้านดอลาร์ (ถ้าอยากทราบว่าเป็นเงินสกุลไทยก็ลองเอา 30 บาทไปคูณ 71 พันล้านดอลาร์
จะได้มูลค่าถึง 2,130,000,000,000 บาท )
และถ้าพูดถึงรองเท้าเรามักจะคิดถึง Nike ร้านกาแฟเรามักคิดถึง
Starbucks ร้านอาหารสมัยใหม่เรามักคิดถึง
แมคโดนัลด์ อะไรที่ทำให้เราคิดถึง Brand เหล่านี้ก่อน Brand อื่นๆ สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญก็คือ
บริษัทเหล่านี้ให้ความสำคัญต่อการสร้าง Brand เป็นอย่างมากนั้นเอง
Brand ก็เหมือนกับคน
กล่าวคือ Brand มีวงจรชีวิต
มีปฏิสนธิหรือการเริ่มวางแผนสร้าง Brand มีการเกิด หรือมี Brand ออกสู่ตลาด มีการเติบโต แข็งแรงตามวัยต่างๆ
วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงานและวัยชรา แล้วก็ตาย ฉะนั้น หากต้องการให้ Brand แข็งแรง บริษัทต่างๆจำเป็นจะต้องเอาใจใส่ ดูแล
ไม่ให้ Brand เกิดการเจ็บป่วยแล้วล้มตาย
เพราะถ้าหากบำรุงดูแลรักษาไม่ดี Brand ก็จะทรุดโทรมเร็ว
อีกทั้งควรคำนึงถึงการเพิ่มคุณค่าให้แก่
Brand ก็มีความสำคัญไม่น้อย เช่น
การพัฒนาคุณภาพของสินค้า , การเพิ่มความหลากหลายในตัวของสินค้า
, บรรจุภัณฑ์ หีบห่อ รูปร่าง รูปทรงต่างๆ , การบริการหลังการขาย , การจัดส่งสินค้าหรือเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย
, การสร้างภาพลักษณ์ของ Brand ให้ปรากฏต่อสังคม เป็นต้น
Celebrity Marketing (เซเลบริตี้
มาร์เก็ตติง) คือ การนำบุคคล คนดัง คนมีชื่อเสียง เช่น ดารา นักร้อง นักการเมือง
นักสื่อสารมวลชน นักกีฬาชื่อดัง มาช่วยในการทำการตลาด เพราะบุคคล คนดัง
มักจะเป็นที่รู้จักของสาธารณชนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลาในการแนะนำตัว อีกทั้ง
บุคคล คนดัง มักจะมีแฟนคลับหรือคนที่ติดตามผลงานอยู่เป็นจำนวนมาก
ดังนั้น บุคคล
คนดัง มักจะเป็นผู้นำทางความคิด จิตวิญญาณ เป็นต้นแบบ ของผู้ติดตาม
จึงทำให้บุคคลที่เป็นแฟนคลับหรือผู้ติดตามเลียนแบบทั้งทางด้านพฤติกรรม
เลียนแบบการใช้ชีวิต เครื่องแต่งกาย ทรงผม รวมไปถึงการใช้สินค้าและบริการของบุคคล
คนดังหรือบุคคลที่เป็นต้นแบบ
การตลาดสมัยใหม่จึงนำสิ่งเหล่านี้มาประยุกต์ใช้
ซึ่งบางบริษัทสามารถนำเอาไปใช้จนได้ผลทำให้เกิดกระแสโด่งดังขึ้นในสังคม
ซึ่งการตลาดแบบ Celebrity Marketing มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจหลายอย่างดังนี้
1.Celebrity
Marketing ช่วยทำให้สินค้าติดตลาดได้อย่างรวดเร็ว
2.Celebrity
Marketing ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าและบริการเป็นจำนวนมาก
เป็นการเพิ่มยอดขาย
3. Celebrity Marketing ช่วยส่งเสริมภาพพจน์หรือภาพลักษณ์ในตัวของสินค้าและบริการ
4. Celebrity Marketing ช่วยให้ภาพการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ฉะนั้น จากข้อความข้างต้น
การใช้บุคคล คนดัง หรือ Celebrity
Marketing มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งถ้ารู้จักประยุกต์ใช้
เพราะจะทำให้สินค้าและบริการของเรา ติดตลาดในช่วงเวลาอันสั้นเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้บุคคลที่ไม่มีชื่อเสียงโฆษณา
ประชาสัมพันธ์ สืบเนื่องมาจาก เมื่อผู้บริโภคเห็นบุคคล คนดัง
ก็มักจะนึกถึงสินค้าและบริการ ที่บุคคล คนดัง โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือ
เมื่อผู้บริโภคเห็น สินค้าและบริการที่โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ก็จะคิดถึงบุคคล คนดัง อีกทั้งช่วยให้เกิดยอดขายเป็นจำนวนมาก
เมื่อเกิดยอดขายมากขึ้น ธุรกิจก็มีโอกาสในการคืนทุนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
Digital Marketing คือ อะไร
Digital Marketing คือ การทำธุรกิจ การขายสินค้า
การทำการตลาดเชิงสร้างสรรค์ผ่านช่องทางในโลก Internet และ Technology โดยใช้ Social Network เป็นเครื่องมือทางการตลาด
Digital
Marketing Trend – แนวโน้มและภาพรวมในตลาดดิจิทัล มีงานสำรวจของ Morgan Stanley Research ในปี 2010 มีผู้ใช้สื่อ Social Network ผ่าน WebSite ต่างๆมีจำนวนเกือบ
900 ล้านล้านคนและมีอัตราการเพิ่มขึ้นเกือบ 40%ต่อปี เลยทีเดียว
ดังนั้น A B C D จึงมีส่วนสำคัญต่อการทำการตลาดของสินค้า ผลิตภัณฑ์ บริการ องค์กร หน่วยงาน
บุคคล
ซึ่งนักการตลาดท่านใดสามารถนำเอาไปประยุกต์ใช้ก็จะประสบความสำเร็จในการทำการตลาดในยุคปัจจุบัน